10 เทคนิคเขียนคอนเทนท์ ให้ถูกใจและแชร์เนื้อหา
การเขียนคอนเทนท์ที่ถูกใจผู้ใช้และกระตุ้นให้มีการแชร์มีเทคนิคหลายอย่างที่สามารถช่วยได้
1. เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย: รู้ว่าใครเป็นผู้อ่านหลักของคุณ และเนื้อหาที่พวกเขาสนใจคืออะไร ความเข้าใจนี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างคอนเทนท์ที่ตรงใจและตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา
2. ให้ข้อมูลที่มีคุณค่า: ผู้ใช้จะสนใจคอนเทนท์ที่ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ ตรงประเด็น และสามารถนำไปใช้ได้จริง ดังนั้น การเน้นให้ข้อมูลที่ครบถ้วน ชัดเจน และเป็นประโยชน์จะเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้จะชื่นชอบและแชร์บทความต่อไป
3. สร้างเนื้อหาที่อ่านง่าย: การแบ่งเนื้อหาเป็นหัวข้อย่อย ๆ การใช้ bullet points หรือการเน้นคำสำคัญ ช่วยให้ผู้อ่านสามารถสแกนเนื้อหาและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
4. เล่าเรื่องราว (Storytelling): การใช้เรื่องราวในการนำเสนอข้อมูลจะช่วยทำให้คอนเทนท์น่าสนใจ และเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของผู้อ่านได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้อ่านมีความรู้สึกเชื่อมโยงและมีส่วนร่วมกับเนื้อหา
5. ใช้ภาพหรือวิดีโอที่น่าสนใจ: ภาพและวิดีโอช่วยเสริมให้คอนเทนท์ดูดึงดูดและน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้จะแชร์เนื้อหาได้มากขึ้น
6. เน้นหัวข้อที่ดึงดูดความสนใจ: หัวข้อหรือพาดหัวที่โดดเด่น จะเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดให้ผู้อ่านคลิกเข้ามาอ่านเนื้อหา การใช้คำที่กระตุ้นความสนใจและสื่อสารได้ชัดเจนเป็นสิ่งที่สำคัญ
7. ทำให้คอนเทนท์มีความน่าเชื่อถือ: การใช้ข้อมูลที่มีแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ หรือการยกตัวอย่างจากประสบการณ์จริง จะทำให้เนื้อหาของคุณดูน่าเชื่อถือและทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าควรแชร์ต่อ
8. ใส่คำกระตุ้นการแชร์: การใส่คำกระตุ้น เช่น “ถ้าคุณชอบบทความนี้ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อน ๆ ของคุณด้วย!” หรือ “แชร์บทความนี้เพื่อให้คนอื่นได้รับความรู้เหมือนกับคุณ” จะช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านคิดถึงการแชร์มากขึ้น
9. สร้างคอนเทนท์ที่สามารถแก้ปัญหาได้: คอนเทนท์ที่ให้คำตอบหรือวิธีแก้ปัญหาที่ชัดเจนสำหรับปัญหาที่ผู้อ่านกำลังเผชิญอยู่ จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าบทความนั้นมีประโยชน์และต้องการแชร์ต่อเพื่อช่วยคนอื่น ๆ
10. ตรวจสอบและปรับปรุงเนื้อหาเสมอ: คอยติดตามและวิเคราะห์ผลตอบรับจากผู้อ่านเพื่อนำไปปรับปรุงคอนเทนท์ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้การอัปเดตเนื้อหาให้ทันสมัยอยู่เสมอ จะทำให้คอนเทนท์ของคุณมีความน่าสนใจอยู่ตลอดเวลา
การรวมเทคนิคเหล่านี้เข้าด้วยกันจะช่วยให้คุณสร้างคอนเทนท์ที่มีคุณภาพ และเป็นที่ถูกใจของผู้อ่านจนพวกเขารู้สึกอยากแชร์ต่อไป
ทำคอนเทนต์ให้คนแชร์ ต้องทำอย่างไร ?
การสร้างคอนเทนต์ที่คนอยากแชร์ต้องมีการวางแผนและออกแบบให้ตรงกับความสนใจและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย นี่คือเทคนิคบางอย่างที่ช่วยให้คอนเทนต์ของคุณน่าสนใจและมีโอกาสที่จะถูกแชร์มากขึ้น
1. เน้นอารมณ์: คอนเทนต์ที่กระตุ้นอารมณ์ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นความสุข, ความตื่นเต้น, หรือแรงบันดาลใจ มีโอกาสที่จะถูกแชร์สูงขึ้น คนชอบแชร์สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกดีหรือต้องการแบ่งปันความรู้สึกนี้ให้กับผู้อื่น
2. เนื้อหาที่เป็นประโยชน์: คอนเทนต์ที่ให้ความรู้ ข้อมูล หรือเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน มักถูกแชร์เพราะคนต้องการแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคนอื่น
3. เนื้อหาที่มีคุณค่าและเข้าใจง่าย: ทำให้คอนเทนต์ของคุณมีประเด็นชัดเจน ไม่ซับซ้อน และสามารถเข้าใจได้ง่าย ผู้อ่านจะรู้สึกมั่นใจในการแชร์สิ่งที่พวกเขาเข้าใจดี
4. ใช้ภาพและวิดีโอ: การใช้ภาพที่น่าสนใจหรือวิดีโอสั้นๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ช่วยเพิ่มโอกาสในการแชร์ คอนเทนต์ที่มีภาพมักจะดึงดูดสายตามากกว่า และทำให้คนอยากจะแชร์มากขึ้น
5. ใส่ข้อมูลใหม่ๆ หรือแนวคิดที่ไม่ซ้ำใคร: คอนเทนต์ที่นำเสนอข้อมูลใหม่ๆ หรือมีมุมมองที่ไม่เหมือนใคร มักจะทำให้คนรู้สึกอยากแชร์เพราะเป็นสิ่งที่ผู้อื่นอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
6. การใช้คำพูดที่ชวนให้แชร์: ใช้คำหรือประโยคที่กระตุ้นให้ผู้อ่านอยากแชร์ เช่น “อย่าลืมแชร์กับเพื่อนของคุณ!” หรือ “นี่คือสิ่งที่คุณต้องแชร์ต่อ!”
7. สร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย: หากคุณสามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้อ่าน ให้พวกเขารู้สึกว่าคอนเทนต์นั้นสอดคล้องกับชีวิตหรือประสบการณ์ของพวกเขาเอง พวกเขาจะมีแนวโน้มที่จะแชร์มากขึ้น
8. การวิเคราะห์และปรับปรุง: ดูสถิติการแชร์ของคอนเทนต์ที่คุณทำไปแล้ว วิเคราะห์ว่าเนื้อหาแบบไหนที่ได้รับการตอบรับดี แล้วปรับปรุงหรือพัฒนาต่อในคอนเทนต์ใหม่ๆ
การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าและสามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายได้จริงๆ จะช่วยให้คอนเทนต์นั้นถูกแชร์มากขึ้นและมีผลกระทบที่ดีต่อแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ
ของการเขียนคอนเทนท์มีคุณค่า ช่วยเรื่อง SEO อย่างไร ?
การเขียนคอนเทนท์ที่มีคุณค่า (valuable content) ไม่เพียงช่วยให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์ แต่ยังมีผลดีต่อ SEO (Search Engine Optimization) ดังนี้
1. เพิ่มโอกาสในการได้รับ Backlinks: คอนเทนท์ที่มีคุณค่าและเป็นที่สนใจมีแนวโน้มที่จะได้รับการแชร์และลิงก์กลับจากเว็บไซต์อื่น ๆ (backlinks) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ในสายตาของเสิร์ชเอนจิ้นอย่าง Google ส่งผลให้อันดับ SEO ดีขึ้น
2. เพิ่มเวลาที่ผู้ใช้ใช้บนเว็บไซต์ (Dwell Time): เมื่อคอนเทนท์มีคุณค่า ผู้ใช้จะใช้เวลานานขึ้นในการอ่านและสำรวจหน้าเว็บ นี่เป็นสัญญาณที่ดีต่อเสิร์ชเอนจิ้นว่าเว็บไซต์ของคุณมีประโยชน์และน่าสนใจ ทำให้อันดับ SEO เพิ่มขึ้น
3. ลด Bounce Rate: คอนเทนท์ที่ดีและน่าสนใจจะช่วยลดอัตราการกลับออกจากเว็บไซต์ทันที (bounce rate) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์และปรับปรุง SEO
4. เพิ่ม Engagement และการแชร์บนโซเชียลมีเดีย: คอนเทนท์ที่มีคุณค่ามีแนวโน้มที่จะได้รับการแชร์บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งสามารถเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์และทำให้เกิดการสร้างลิงก์ที่ช่วยเพิ่มอันดับ SEO
5. รองรับการค้นหาด้วยคำหลักที่หลากหลาย: คอนเทนท์ที่มีคุณค่ามักจะครอบคลุมหลายแง่มุมของหัวข้อ ทำให้มีโอกาสที่จะรองรับการค้นหาด้วยคำหลักที่หลากหลายและเพิ่มโอกาสในการถูกค้นพบผ่านการค้นหาต่าง ๆ
6. เพิ่มความน่าเชื่อถือและอำนาจ (Authority): คอนเทนท์ที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง มีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ และเป็นประโยชน์ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ ทำให้เสิร์ชเอนจิ้นเห็นว่าเว็บไซต์เป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และยกอันดับเว็บไซต์สูงขึ้นในผลการค้นหา
