Meta tags คืออะไร ?
ตัวอย่าง Meta Tags มีอะไรบ้าง ?
Meta Tags เป็นโค้ด HTML ที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหา (เช่น Google) เข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับเว็บเพจของคุณ โดยทั่วไปมี Meta Tags หลัก ๆ ดังนี้
1. <title>: ชื่อของหน้าเว็บ แสดงในแท็บของเบราว์เซอร์และเป็นชื่อที่แสดงในผลการค้นหา
- <title>Example Page Title</title>
2. <meta name=”description” content=”…”>: คำอธิบายของหน้าเว็บ มักจะแสดงในผลการค้นหาใต้ชื่อเว็บ
- <meta name=”description” content=”This is an example of a meta description.”>
3. <meta name=”keywords” content=”…”>: คำหลักที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บเพจ แม้จะไม่ได้ใช้บ่อยในปัจจุบัน
- <meta name=”keywords” content=”HTML, CSS, JavaScript”>
4. <meta name=”robots” content=”…”>: ระบุว่าบอทของเครื่องมือค้นหาควรจัดการกับหน้าเว็บนี้อย่างไร
- <meta name=”robots” content=”index, follow”>
5. <meta charset=”UTF-8″>: ระบุการเข้ารหัสตัวอักษรของหน้าเว็บ
- <meta charset=”UTF-8″>
6. <meta name=”viewport” content=”…”>: ใช้เพื่อควบคุมการแสดงผลในอุปกรณ์มือถือ ทำให้หน้าเว็บปรับตามขนาดหน้าจอ
- <meta name=”viewport” content=”width=device-width, initial-scale=1.0″>
นอกจากนี้ยังมี Meta Tags อื่น ๆ อีกมากที่สามารถใช้ตามความต้องการเฉพาะของหน้าเว็บ
Meta tags มีความสำคัญต่อ SEO อย่างไร ?
Meta tags มีความสำคัญต่อ SEO (Search Engine Optimization) อย่างมาก เพราะเป็นข้อมูลที่อยู่ในส่วนหัวของ HTML ที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหาของหน้าเว็บได้ดีขึ้น และนำไปใช้ในการจัดอันดับผลการค้นหาออนไลน์ โดย meta tags ที่สำคัญมีดังนี้
1. Title Tag
Title Tag หรือชื่อของหน้าเว็บนั้นสำคัญมากในการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพราะมันเป็นสิ่งที่ผู้ใช้จะเห็นเป็นอย่างแรกในผลการค้นหา ควรทำให้มันน่าสนใจและรวมคำหลัก (keywords) ที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด เพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้คลิกเข้าไปอ่าน นอกจากนี้ ควรจะไม่ยาวเกินไป เพื่อให้แสดงผลได้เต็มที่ในหน้าผลการค้นหา (ประมาณ 50-60 ตัวอักษรจะดี)
ตัวอย่าง Title Tag ที่ดี
- “เคล็ดลับการทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขาย | ธุรกิจออนไลน์ 2024”
- “วิธีปลูกผักในบ้านสำหรับมือใหม่ | สวนครัว”
- “10 ร้านกาแฟสุดชิลในกรุงเทพที่คุณต้องลอง | รีวิว 2024”
2. Meta Description
Meta description คือคำอธิบายสั้นๆ ของหน้าเว็บที่ปรากฏใต้ title tag ในผลการค้นหาใน Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ควรเขียนให้กระชับ ชัดเจน และรวมคำหลักเพื่อดึงดูดความสนใจและให้ข้อมูลที่สำคัญแก่ผู้ใช้ เช่น “เรียนรู้วิธีการสร้าง meta description ที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มการคลิกและ SEO ของเว็บไซต์ของคุณ”
3. Meta Keywords
Meta keywords เคยเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบอกเครื่องมือค้นหาว่าหน้าเว็บเกี่ยวข้องกับคำหลักอะไรบ้าง แต่ปัจจุบัน Google และเครื่องมือค้นหาหลักอื่น ๆ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับ meta keywords แล้ว เนื่องจากมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการสแปมและการเพิ่มอันดับโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพเนื้อหาจริง ๆ
4. Robots Meta Tag
Robots meta tag ใช้ในการควบคุมการจัดเก็บและติดตามเนื้อหาในหน้าเว็บของคุณโดยเครื่องมือค้นหา โดยทั่วไปคุณสามารถใช้แท็กนี้เพื่อระบุคำสั่งต่าง ๆ เช่น
- index บอกให้เครื่องมือค้นหาเก็บข้อมูลของหน้าเว็บนี้
- noindex บอกให้เครื่องมือค้นหาไม่เก็บข้อมูลของหน้าเว็บนี้
- follow บอกให้เครื่องมือค้นหาติดตามลิงก์ในหน้าเว็บนี้
- nofollow บอกให้เครื่องมือค้นหาไม่ติดตามลิงก์ในหน้าเว็บนี้
คุณสามารถรวมคำสั่งเหล่านี้ในแท็กเดียวกัน เช่นเพื่อบอกให้เครื่องมือค้นหาไม่เก็บข้อมูลและไม่ติดตามลิงก์ในหน้านั้น ๆ
5. Viewport Meta Tag
Viewport Meta Tag เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำให้เว็บเพจของคุณแสดงผลได้ดีบนอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะมือถือ การใช้แท็กนี้ช่วยให้คุณสามารถควบคุมการซูม การตั้งค่าขนาดเริ่มต้น และความละเอียดของหน้าจอ ซึ่งช่วยให้หน้าเว็บของคุณตอบสนองได้ดีขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงขนาดหน้าจอของอุปกรณ์