Canonical Tags คืออะไร ?
Canonical Tags หรือ Canonical Links เป็นแท็กที่ใช้ใน HTML เพื่อระบุหน้าเว็บที่เป็นต้นฉบับหรือที่ควรถือเป็น “แหล่งข้อมูลหลัก” ของเนื้อหานั้น ๆ ในกรณีที่มีหลายหน้าเว็บที่มีเนื้อหาคล้ายหรือเหมือนกัน การใช้ Canonical Tags ช่วยให้เครื่องมือค้นหาเช่น Google สามารถระบุหน้าเว็บที่ควรจัดอันดับในผลการค้นหาได้อย่างถูกต้อง และลดปัญหาที่เรียกว่า “Duplicate Content” ที่อาจส่งผลเสียต่อ SEO
Canonical Tag จะมีลักษณะเป็นโค้ด HTML ที่ใส่ในส่วนของหน้าเว็บ ตัวอย่างเช่น
- <link rel=”canonical” href=”https://www.example.com/page-original”>
โค้ดนี้บอกเครื่องมือค้นหาว่าแม้หน้าเว็บที่คุณอยู่ขณะนี้จะมีเนื้อหาเดียวกับหน้าเว็บอื่น ๆ แต่หน้าเว็บที่เป็นต้นฉบับคือ https://www.example.com/page-original
การใช้แท็กแคนนอนิคัลอย่างถูกต้องช่วยในการปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ โดยลดปัญหาการซ้ำกันของเนื้อหาและช่วยให้เสิร์ชเอนจินเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า URL ใดที่ควรให้ความสำคัญ
Canonical tags มีประโยชน์อย่างไร ?
Canonical tags หรือ “Canonical link elements” เป็นเครื่องมือสำคัญใน SEO ที่ช่วยจัดการกับปัญหาการทำซ้ำเนื้อหาบนเว็บไซต์ ซึ่งมีประโยชน์หลักดังนี้
1. ป้องกันปัญหาเนื้อหาซ้ำซ้อน: เมื่อมีหลายหน้าเว็บที่มีเนื้อหาเหมือนกันหรือคล้ายกัน canonical tags ช่วยบอกให้เครื่องมือค้นหาทราบว่า URL ใดเป็นหน้าต้นฉบับหรือหน้าที่ต้องการให้จัดอันดับ
2. ปรับปรุงการจัดอันดับ SEO: การใช้ canonical tags ช่วยให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ สามารถระบุและจัดอันดับเนื้อหาที่ถูกต้อง ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้คะแนน SEO ถูกแบ่งระหว่างหลายหน้า
3. เพิ่มประสิทธิภาพการรวบรวมข้อมูล: ช่วยลดการรวบรวมข้อมูลที่ไม่จำเป็นในหลายหน้าที่มีเนื้อหาซ้ำกัน ทำให้เครื่องมือค้นหาสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการรวบรวมข้อมูลหน้าเว็บอื่น ๆ
4. จัดการการเผยแพร่เนื้อหา: สำหรับเว็บไซต์ที่มีหลายเวอร์ชันของเนื้อหา (เช่น หน้าสำหรับพิมพ์ หน้าสำหรับมือถือ) canonical tags ช่วยกำหนด URL ต้นฉบับเพื่อลดความสับสนสำหรับเครื่องมือค้นหา
5. รักษาลิงก์ภายใน: เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง URL ของหน้าเว็บ canonical tags ช่วยรักษาความสัมพันธ์ของลิงก์ภายในและคะแนน SEO ที่สะสมไว้
6. ลดความสับสนของผู้ใช้: ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้ง่ายขึ้นโดยไม่ถูกนำไปยังหน้าที่ซ้ำซ้อน
วิธีการสร้าง Canonical Tags ทำได้อย่างไร ?
การสร้าง Canonical Tags (แท็กแคนนอนิคอล) เป็นวิธีที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหา (เช่น Google) เข้าใจได้ว่า URL ใดเป็นเวอร์ชันหลักของเนื้อหาที่ซ้ำกันหรือคล้ายคลึงกันในเว็บไซต์ของคุณ การใช้ Canonical Tags สามารถช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาการทำซ้ำเนื้อหา (duplicate content) และปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ วิธีการสร้าง Canonical Tags มีดังนี้
1. เพิ่ม Canonical Tag ใน HTML ของหน้าเว็บ
ในส่วนของหน้าเว็บที่ต้องการระบุ Canonical URL ให้เพิ่มโค้ดต่อไปนี้
- <link rel=”canonical” href=”https://www.example.com/canonical-url”>
2. กำหนด Canonical URL ให้ถูกต้อง
- URL ที่ใช้ใน Canonical Tag ควรเป็น URL ที่ต้องการให้เป็นเวอร์ชันหลักของเนื้อหานั้น
- ควรใช้ URL แบบสมบูรณ์ (absolute URL) เช่น https://www.example.com/page
3. ตรวจสอบการตั้งค่า URL บนเว็บไซต์
- ตรวจสอบว่า Canonical Tag ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้องในทุกหน้าเว็บที่มีเนื้อหาซ้ำกันหรือคล้ายคลึงกัน
- หากมีหลายเวอร์ชันของหน้าเว็บ (เช่น URL แบบมี/ไม่มี www หรือ URL แบบมี/ไม่มี https), ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกเวอร์ชันใช้ Canonical URL เดียวกัน
4. ใช้ Canonical Tags บนระบบจัดการเนื้อหา (CMS)
- หากคุณใช้ CMS เช่น WordPress, Joomla หรืออื่นๆ หลายๆ ระบบมีปลั๊กอินหรือส่วนเสริมที่ช่วยในการตั้งค่า Canonical Tags อัตโนมัติ
- สำหรับ WordPress, คุณสามารถใช้ปลั๊กอินเช่น Yoast SEO หรือ All in One SEO เพื่อจัดการ Canonical Tags
5. ตรวจสอบ Canonical Tags ด้วยเครื่องมือของ Google
- ใช้เครื่องมือเช่น Google Search Console เพื่อดูว่ามีการตั้งค่า Canonical Tags อย่างถูกต้องหรือไม่
- ใน Google Search Console, คุณสามารถใช้เครื่องมือ URL Inspection เพื่อดู Canonical URL ที่ Google เข้าใจ
การใช้ Canonical Tags อย่างถูกต้องสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีการจัดอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหาและหลีกเลี่ยงปัญหาการทำซ้ำเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ