การทำ SEO ที่ดีทำไมจึงควรให้ความสำคัญ ?
1. การทำ SEO (Search Engine Optimization) ที่ดีมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีหลายประการที่ส่งผลดีต่อธุรกิจและเว็บไซต์
2. เพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึง: SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในหน้าผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google, Bing ฯลฯ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาและเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น
3. เพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์: การปรับปรุง SEO ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสนใจสินค้า หรือบริการที่คุณนำเสนอ
4. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา: การทำ SEO ช่วยลดการพึ่งพาการโฆษณาแบบเสียค่าใช้จ่าย (PPC) เพราะเว็บไซต์ที่มีอันดับดีในผลการค้นหาสามารถดึงดูดผู้เข้าชมได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินค่าโฆษณา
5. เพิ่มความน่าเชื่อถือ: เว็บไซต์ที่ปรากฏอยู่ในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหามักถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูงขึ้นในสายตาของผู้ใช้งาน
6. สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน: SEO ไม่เพียงแค่เกี่ยวกับการปรับปรุงอันดับในผลการค้นหา แต่ยังเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์ด้วย การทำให้เว็บไซต์โหลดเร็ว มีโครงสร้างที่ดี และเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง
7. ความยั่งยืนในระยะยาว: การทำ SEO เป็นการลงทุนระยะยาวที่จะส่งผลดีต่อการเข้าชมเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง แตกต่างจากการโฆษณาแบบ PPC ที่ต้องจ่ายเงินอย่างต่อเนื่อง
8. การวัดผลและการปรับปรุง: การทำ SEO ช่วยให้สามารถวัดผลและปรับปรุงแผนการตลาดได้ง่าย ผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ ที่สามารถบอกถึงแหล่งที่มาของการเข้าชม ปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้ และประสิทธิภาพของเนื้อหา
9. แข่งขันได้ในตลาด: ในยุคที่ทุกธุรกิจต้องมีตัวตนออนไลน์ การทำ SEO อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
การให้ความสำคัญกับการทำ SEO ที่ดี จึงเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพและสามารถนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาวได้
การทำ SEO ใช้เวลานานเท่าไร ?
การทำ SEO ที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพสามารถใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ช่วง 4-6 เดือนแรก: คุณอาจเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เช่น การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และการจัดอันดับในบางคำค้นหา (keywords) ที่มีการแข่งขันต่ำหรือปานกลาง แต่ผลลัพธ์เหล่านี้อาจยังไม่มั่นคงและสามารถเปลี่ยนแปลงได้
2. ช่วง 6-12 เดือน: ในช่วงเวลานี้ ผลลัพธ์ที่ได้จะเริ่มมีความมั่นคงมากขึ้น คุณจะเห็นการเพิ่มขึ้นของการจัดอันดับในคำค้นหาที่มีการแข่งขันสูงขึ้น และการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์อย่างมีนัยสำคัญ
3. 12 เดือนขึ้นไป: เมื่อผ่านไปมากกว่า 12 เดือน การทำ SEO ที่สม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพจะทำให้คุณมีการจัดอันดับที่มั่นคงในคำค้นหาหลายคำ และมีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน คุณจะเริ่มเห็นผลกระทบต่อธุรกิจของคุณในแง่ของยอดขายหรือการสมัครสมาชิกที่เพิ่มขึ้น
เพราะอะไรการทำ SEO ถึงไม่ควรรีบร้อน ?
การทำ SEO (Search Engine Optimization) ไม่ควรรีบร้อนเพราะเหตุผลหลายประการดังนี้
1. ต้องการเวลาในการสร้างความน่าเชื่อถือและความนิยม: การสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาของเครื่องมือค้นหาเช่น Google ต้องใช้เวลา เว็บไซต์ที่เพิ่งเปิดใหม่หรือมีเนื้อหาน้อยจะต้องใช้เวลานานกว่าจะได้รับการยอมรับและติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา
2. การอัปเดตอัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหา: อัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหามักจะมีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับปรุงคุณภาพของผลการค้นหา หากเราทำ SEO อย่างรีบร้อนและใช้เทคนิคที่ไม่เป็นธรรมชาติหรือไม่เหมาะสม อาจทำให้ถูกลงโทษหรือถูกลดอันดับได้
3. ความต้องการคุณภาพของเนื้อหา: การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานต้องใช้เวลา ไม่ใช่แค่การเขียนบทความเพื่อให้มีจำนวนมาก แต่ต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง มีคุณค่า และน่าสนใจสำหรับกลุ่มเป้าหมาย
4. การสร้างลิงก์คุณภาพ: การสร้างลิงก์กลับ (backlink) จากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา การได้รับลิงก์จากเว็บไซต์คุณภาพจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและอันดับของเว็บไซต์ของเรา
5. การปรับปรุงและทดสอบอย่างต่อเนื่อง: การทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต้องมีการปรับปรุงและทดสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบว่าเทคนิคที่ใช้นั้นได้ผลดีหรือไม่ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหรือทำแบบรีบร้อนอาจทำให้ไม่สามารถวัดผลและปรับปรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. ป้องกันการลงโทษจากเครื่องมือค้นหา: หากเราทำ SEO อย่างรีบร้อนและใช้เทคนิคที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่เป็นธรรมชาติ เช่น การใช้คีย์เวิร์ดมากเกินไป การซื้อลิงก์ หรือการใช้เทคนิค black hat SEO อาจทำให้เว็บไซต์ของเราถูกลงโทษหรือติดอันดับลดลงอย่างรวดเร็ว
การทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต้องมีความอดทนและใช้เวลาในการสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน การรีบร้อนอาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังและอาจส่งผลเสียในระยะยาว
