ผู้ให้บริการด้าน Social Media Marketing อันดับ 1

Search engine optimization แตกต่างกับ Google Adwords อย่างไร ?

Search engine optimization แตกต่างกับ Google Adwords อย่างไร ?
หลายคนอาจจะสงสัย Search engine optimization นั้นคืออะไร และมีความแตกต่างอย่างไรกับ Google Adwords SocialIn.One จะพาทุกท่านไปไขข้อสงสัยกัน โดยรายละเอียดของ SEO และ Google Adwords จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันเลย

Search engine optimization คืออะไร ?

Search Engine Optimization (SEO) คือ กระบวนการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์เพื่อให้เว็บไซต์ปรากฏอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google, Bing, Yahoo เป็นต้น โดยการทำ SEO นั้นจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้คนพบเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นเมื่อพวกเขาค้นหาคำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหรือบริการที่เว็บไซต์ของคุณนำเสนอ

การทำ SEO มีหลายองค์ประกอบ ดังนี้

1. On-Page SEO: การปรับปรุงเนื้อหาและโครงสร้างของหน้าเว็บ เช่น การใช้คำหลัก (keywords) ที่เหมาะสม, การปรับปรุงเมตาแท็ก (meta tags), การสร้าง URL ที่เป็นมิตรกับเครื่องมือค้นหา และการเพิ่มประสิทธิภาพของรูปภาพและวิดีโอ

2. Off-Page SEO: การสร้างลิงก์ภายนอก (backlinks) จากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพมาสู่เว็บไซต์ของคุณ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและอำนาจของเว็บไซต์ในสายตาของเครื่องมือค้นหา

3. Technical SEO: การปรับปรุงด้านเทคนิคของเว็บไซต์ เช่น ความเร็วในการโหลดของหน้าเว็บ, การทำให้เว็บไซต์รองรับการใช้งานบนมือถือ, และการปรับโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับการทำดัชนีของเครื่องมือค้นหา

4. Content SEO: การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและมีคุณค่าสำหรับผู้ใช้ การทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจและตอบโจทย์คำถามของผู้ใช้สามารถช่วยให้เว็บไซต์ได้รับความสนใจและมีการแชร์ต่อมากขึ้น

การทำ SEO มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ (organic traffic) โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาในเครื่องมือค้นหา

Search engine optimization

Google AdWords คืออะไร ?

Google AdWords หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า Google Ads เป็นแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ของ Google ที่ให้ธุรกิจสามารถสร้างโฆษณาและแสดงผลในหน้าแรกของผลการค้นหาของ Google หรือบนเว็บไซต์พันธมิตรต่างๆ ผ่านเครือข่ายของ Google โดยธุรกิจสามารถกำหนดงบประมาณและเลือกคำหลัก (keywords) ที่ต้องการให้โฆษณาปรากฏเมื่อผู้ใช้ค้นหาคำเหล่านั้น

Google Ads มีรูปแบบโฆษณาหลัก ๆ ดังนี้

1. Search Ads: โฆษณาที่ปรากฏในผลการค้นหาของ Google เมื่อผู้ใช้ค้นหาคำหลักที่กำหนดไว้ โฆษณาจะแสดงอยู่ที่ด้านบนหรือด้านล่างของหน้าผลการค้นหา

2. Display Ads: โฆษณาแบบรูปภาพหรือแบนเนอร์ที่ปรากฏบนเว็บไซต์พันธมิตรในเครือข่ายของ Google (Google Display Network) ซึ่งครอบคลุมเว็บไซต์หลากหลายประเภททั่วโลก

3. Video Ads: โฆษณาวิดีโอที่ปรากฏบน YouTube และแพลตฟอร์มวิดีโออื่น ๆ ในเครือข่ายของ Google

4. Shopping Ads: โฆษณาสินค้าที่แสดงผลในรูปแบบภาพสินค้า พร้อมด้วยข้อมูลราคาและร้านค้าที่จำหน่าย โดยจะแสดงผลเมื่อผู้ใช้ค้นหาสินค้าบน Google

5. App Promotion Ads: โฆษณาที่เน้นการโปรโมทแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถแสดงผลบน Google Search, Google Play, YouTube และเครือข่ายของ Google

6. Smart Campaigns: รูปแบบโฆษณาที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่ง Google จะช่วยจัดการแคมเปญให้โดยอัตโนมัติ

Google Ads ใช้ระบบการประมูล (auction) ที่ซับซ้อน โดยผู้โฆษณาจะเสนอราคาต่อคลิก (Cost Per Click – CPC) หรือราคาต่อพันการแสดงผล (Cost Per Thousand Impressions – CPM) แล้วโฆษณาที่ชนะจะถูกแสดงต่อผู้ใช้ที่ค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้อง

SEO

SEO แตกต่างกับ Google Ads อย่างไร ?

SEO (Search Engine Optimization) และ Google Ads (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Google AdWords) มีความแตกต่างกันอย่างมากในแง่ของวิธีการทำงานและเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ

1. ลักษณะการทำงาน

  • SEO: เป็นกระบวนการในการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาทั่วไป (organic search) ของเครื่องมือค้นหาเช่น Google โดยการใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การใช้คีย์เวิร์ด, การปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์, การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ, และการเพิ่มลิงก์จากแหล่งที่เชื่อถือได้
  • Google Ads: เป็นแพลตฟอร์มโฆษณาแบบจ่ายเงินของ Google ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างโฆษณาที่จะปรากฏในผลการค้นหาของ Google, เว็บไซต์ที่เป็นพันธมิตรของ Google, YouTube, และอื่น ๆ คุณจะต้องจ่ายเงินทุกครั้งที่มีคนคลิกที่โฆษณาของคุณ (Pay-Per-Click หรือ PPC)

2. ค่าใช้จ่าย

  • SEO: โดยทั่วไปการทำ SEO ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการแสดงผลในผลการค้นหาธรรมชาติ แต่ต้องลงทุนในด้านเวลาและทรัพยากรเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์และสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ การสร้างผลลัพธ์อาจใช้เวลานานขึ้นกว่าจะเห็นผล
  • Google Ads: คุณต้องจ่ายเงินสำหรับทุกคลิกที่ได้รับจากโฆษณา ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับการแข่งขันของคีย์เวิร์ดและอุตสาหกรรมที่คุณอยู่ โฆษณาจะปรากฏในทันทีเมื่อคุณตั้งแคมเปญ แต่เมื่อหยุดจ่ายเงิน โฆษณาจะหายไปจากผลการค้นหา

3. ระยะเวลาผลลัพธ์

  • SEO: ผลลัพธ์จากการทำ SEO อาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในอันดับการค้นหา แต่เมื่อได้รับอันดับที่ดีแล้ว ผลลัพธ์มักจะยั่งยืน
  • Google Ads: ผลลัพธ์จะเกิดขึ้นทันทีที่โฆษณาเริ่มแสดง แต่ผลลัพธ์จะหยุดทันทีเมื่อหยุดจ่ายเงิน

4. เป้าหมาย

  • SEO: มุ่งเน้นที่การเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์อย่างยั่งยืนและสร้างความเชื่อถือผ่านการค้นหาธรรมชาติ
  • Google Ads: มุ่งเน้นที่การได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็วผ่านการโฆษณาแบบชำระเงิน

บทส่งท้าย

สรุปคือ SEO เน้นการสร้างการเข้าชมอย่างยั่งยืนในระยะยาวผ่านการปรับปรุงเว็บไซต์และเนื้อหา ขณะที่ Google Ads เน้นการได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วผ่านการโฆษณาแบบจ่ายเงิน
บริการปั้มไลค์ เพิ่มผู้ติดตาม ปั้มยอดวิว มีครบจบที่ Auto-Like.co

แชร์:

ความคิดเห็น:

หัวข้อเรื่อง